hitexts

Hi, We texts to you.

มนุษย์จะอยู่กันอย่างอิสระไม่ได้ต้องมีการปกครองและควบคุมไม่งั้นสังคมมนุษย์จะดำรงอยู่ต่อไปไม่ได้บนโลกใบนี้

5 ปัญหาใหญ่ที่มนุษย์ต้องเผชิญ

1. อาหารจากแหล่งธรรมชาติไม่พอกิน

2. โรคระบาดร้ายแรงที่รักษาไม่ได้

3. สติปัญญาจะถูกลดทอนลงจนถึงระดับโง่ถาวร

4. สงครามระหว่างประเทศและสงครามกลางเมือง

5. ภัยพิบัติทางธรรมชาติขนาดใหญ่ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติและการทำลายล้างของมนุษย์

มนุษย์จะอยู่กันอย่างอิสระไม่ได้ต้องมีการปกครองและควบคุมไม่งั้นสังคมมนุษย์จะดำรงอยู่ต่อไปไม่ได้บนโลกใบนี้ภายใต้สภาวะการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติทั้งที่เกิดจากฝีมือมนุษย์และจากธรรมชาติเอง เช่น ภาวะโลกร้อน ภัยแล้งทั่วโลก น้ำแข็งขั้วโลกละลาย ภัยหนาวแบบสุดขั้ว ภัยจากสงครามระหว่างมนุษย์ด้วยเอง เมื่อหลายหมื่นปีก่อนโลกมีจำนวนประชากรมนุษย์อยู่เพียง 5 ล้านคน แต่ภายใน 20 ปีข้างหน้าโลกจะมีมนุษย์อยู่ราว 10,000 ล้านคน มนุษย์เรากำลังเผชิญกับวิกฤติขาดแคลนอาหารเพราะหลายปีที่ผ่านมาประชากรก็เพิ่มมากขึ้นจำนวนคนที่ไม่มีอาหารก็เพิ่มมากขึ้น 11.3%  ของประชากร หรือ ประมาณ 805 ล้านคน ไม่มีอาหารเพียงพอในชีวิตประจำวัน 526 ล้านคน คือ คนเอเชียเหมือนเราภายในปี  ค.ศ. 2050 คาดว่าจะมีประมาณ 2 พันล้านคนในโลกที่จะไม่มีอาหารกิน แล้ววิธีรับมือกับวิกฤติเพื่อลดความหิวโหยของมนุษย์ไม่ให้เกิดภาวะขาดแคลนอาหาร ความยากจนนำไปสู่ความอดอยาก ยังคงมีคนนับพันล้านที่อยู่ได้ด้วยเงินน้อย  กว่า 1.25 ดอลลาร์ต่อวันเกษตรกรบางคนไม่สามารถแม้แต่จะซื้ออาหารที่เป็นผลิตผลของตัวเอง โดยในประเทศกำลังพัฒนาค่าอาหารอาจสูงถึง 50% ของรายได้ สหประชาชาติระบุว่า คนทั่วโลกราว 1 ใน 9 คน ไม่มีอาหารกินเพียงพอที่จะทำ  ให้มีชีวิตอยู่อย่างมีสุขภาพดีและกระฉับกระเฉง

แม้สหประชาชาติจะมี ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน

ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนนี้เป็นมาตรฐานร่วมกันแห่งความสำเร็จสำหรับประชาชนทั้งมวลและประชาชาติทั้งหลาย เพื่อจุดมุ่งหมายที่ว่าปัจเจกบุคคลทุกคน และทุกส่วนของสังคม โดยการคำนึงถึงปฏิญญานี้เป็นเนืองนิตย์ จะมุ่งมั่นส่งเสริมการเคารพสิทธิ และอิสรภาพเหล่านี้ ด้วยการสอนและการศึกษา และให้มีการยอมรับและยึดถือโดยสากลอย่างมีประสิทธิผล ด้วยมาตรการอันก้าวหน้าในประเทศและระหว่างประเทศ ทั้งในบรรดาประชาชนของรัฐสมาชิกด้วยกันเอง และในบรรดาประชาชนของดินแดนที่อยู่ใต้เขตอำนาจแห่งรัฐนั้น

1.ทุกคนเกิดมาเท่าเทียม

มนุษย์ทั้งปวงเกิดมามีอิสระและเสมอภาคกันในศักดิ์ศรี และสิทธิ ต่างในตนมีเหตุผลและมโนธรรม และควรปฏิบัติต่อกันด้วยจิตวิญญาณแห่งภราดรภาพ

2.ไม่แบ่งแยก

ทุกคนย่อมมีสิทธิและอิสรภาพทั้งปวงตามที่กำหนดไว้ในปฏิญญานี้ โดยปราศจากการแบ่งแยกไม่ว่าชนิดใดอาทิเชื้อชาติ ผิว เพศ ภาษา ศาสนาความคิดเห็นทางการเมือง หรือทางอื่นพื้นเพทางชาติหรือสังคม ทรัพย์สิน กำเนิดหรือสถานะอื่นนอกเหนือจากนี้จะไม่มีการแบ่งแยกใดบนพื้นฐานของสถานะทางการเมือง ทางกฎหมาย หรือทางการระหว่างประเทศของประเทศหรือดินแดนที่บุคคลสังกัดไม่ว่าดินแดนนี้จะเป็นเอกราชอยู่ในความพิทักษ์มิได้ปกครองตนเองหรืออยู่ภายใต้การจำกัดอธิปไตยอื่นใด

3.สิทธิในการมีชีวิต

ทุกคนมีสิทธิในการมีชีวิต เสรีภาพ และความมั่นคงแห่งบุคคล

4.ไม่ตกเป็นทาส

บุคคลใดจะตกอยู่ในความเป็นทาสหรือสภาวะจำยอมไม่ได้ ทั้งนี้ห้ามความเป็นทาสและการค้าทาสทุกรูปแบบ

5.ไม่ถูกทรมาน

บุคคลใดจะถูกกระทำการทรมาน หรือการปฏิบัติ หรือการลงโทษที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรม หรือย่ำยีศักดิ์ศรีไม่ได้

6.ได้รับการคุ้มครองทางกฎหมาย

ทุกคนมีสิทธิที่จะได้รับการยอมรับทุกแห่งหน ว่าเป็นบุคคลตามกฎหมาย

7.เท่าเทียมกันตามกฎหมาย

ทุกคนเสมอภาคกันตามกฎหมายและมีสิทธิที่จะได้รับความคุ้มครองของกฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน โดยปราศจากการเลือกปฏิบัติใดทุกคนมีสิทธิที่จะได้รับความคุ้มครองเท่าเทียมกันจากการเลือกปฏิบัติใด อันเป็นการล่วงละเมิดปฏิญญานี้  และจากการยุยงให้มีการเลือกปฏิบัติดังกล่าว

8.สิทธิที่จะได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย

ทุกคนมีสิทธิที่จะได้รับการเยียวยาอันมีประสิทธิผลจากศาลที่มีอำนาจแห่งรัฐต่อการกระทำอันล่วงละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานซึ่งตนได้รับตามรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย

9.ไม่ถูกคุมขังโดยพลการ

บุคคลใดจะถูกจับกุม กักขัง หรือเนรเทศตามอำเภอใจไม่ได้

10.ได้รับการพิจารณาอย่างเป็นธรรม

ทุกคนย่อมมีสิทธิในความเสมอภาคอย่างเต็มที่ในการได้รับการพิจารณาคดีที่เป็นธรรมและเปิดเผยจากศาลที่อิสระและไม่ลำเอียงในการพิจารณากำหนดสิทธิและหน้าที่ของตนและข้อกล่าวหาอาญาใดต่อตน

11.เป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าศาลจะตัดสิน

11.1 ทุกคนที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดทางอาญา มีสิทธิที่จะได้รับการสันนิษฐานไว้ก่อนว่าบริสุทธิ์จนกว่าจะพิสูจน์ได้ว่ามีความผิดตามกฎหมาย ในการพิจารณาคดีที่เปิดเผยซึ่งตนได้รับหลักประกันที่จำเป็นทั้งปวงสำหรับการต่อสู้คดี

11.2 บุคคลใดจะถูกตัดสินว่ามีความผิดทางอาญาใดอันเนื่องจากการกระทำหรือละเว้นใดอันมิได้ถือว่าเป็นความผิดทางอาญาตามกฎหมายแห่งชาติหรือกฎหมายระหว่างประเทศ ในขณะที่ได้กระทำการนั้นไม่ได้และจะกำหนดโทษหนักกว่าที่บังคับใช้ในขณะที่ได้กระทำความผิดทางอาญานั้นไม่ได้

12.สิทธิความเป็นส่วนตัว

บุคคลใดจะถูกแทรกแซงตามอำเภอใจในความเป็นส่วนตัวครอบครัวที่อยู่อาศัยหรือการสื่อสารหรือจะถูกลบหลู่เกียรติยศและชื่อเสียงไม่ได้ ทุกคนมีสิทธิที่จะได้รับการคุ้มครองของกฎหมายจากการแทรกแซงสิทธิ หรือการลบหลู่ดังกล่าวนั้น

13.เสรีภาพในการเดินทาง

13.1 ทุกคนมีสิทธิในอิสรภาพแห่งการเคลื่อนย้ายและการอยู่อาศัยภายในพรมแดนของแต่ละรัฐ

13.2 ทุกคนมีสิทธิที่จะออกนอกประเทศใด รวมทั้งประเทศของตนเองด้วย และสิทธิที่จะกลับสู่ประเทศตน

14.สิทธิที่จะลี้ภัย

14.1 ทุกคนมีสิทธิที่จะแสวงหาและได้ที่ลี้ภัยในประเทศอื่นจากการประหัตประหาร

14.2 สิทธินี้จะยกขึ้นกล่าวอ้างกับกรณีที่การดำเนินคดีที่เกิดขึ้นโดยแท้ จากความผิดที่มิใช่ทางการเมืองหรือจากการกระทำอันขัดต่อวัตถุประสงค์และหลักการของสหประชาชาติไม่ได้

15.สิทธิที่จะมีสัญชาติ

15.1 ทุกคนมีสิทธิในสัญชาติหนึ่ง

15.2 บุคคลใดจะถูกเพิกถอนสัญชาติของตนตามอำเภอใจ หรือถูกปฏิเสธสิทธิที่จะเปลี่ยนสัญชาติของตนไม่ได้

16.เสรีภาพในการแต่งงาน

16.1 บรรดาชายและหญิงที่มีอายุครบบริบูรณ์แล้วมีสิทธิที่จะทำการสมรสและก่อร่างสร้างครอบครัวโดยปราศจากการจำกัดใดอันเนื่องจากเชื้อชาติ สัญชาติหรือศาสนา ต่างย่อมมีสิทธิเท่าเทียมกันในการสมรสระหว่างการสมรสและขาด  จากการสมรส

16.2 การสมรสจะกระทำกันโดยความยินยอมอย่างอิสระ และเต็มที่ของผู้ที่จะเป็นคู่สมรสเท่านั้น

16.3 ครอบครัวเป็นหน่วยธรรมชาติและพื้นฐานของสังคม และย่อมมีสิทธิที่จะได้รับความคุ้มครองจากสังคมและรัฐ

17.สิทธิในการครอบครองทรัพย์สิน

17.1 ทุกคนมีสิทธิที่จะเป็นเจ้าของทรัพย์สินโดยตนเอง และโดยร่วมกับผู้อื่น

17.2 บุคคลใดจะถูกเอาทรัพย์สินไปจากตนตามอำเภอใจไม่ได้

18.เสรีภาพในการนับถือศาสนา

ทุกคนมีสิทธิในอิสรภาพแห่งความคิด มโนธรรม และศาสนา ทั้งนี้ สิทธินี้รวมถึงอิสรภาพในการเปลี่ยนศาสนาหรือความเชื่อ และอิสรภาพในการแสดงออกทางศาสนาหรือความเชื่อถือ ของตนในการสอน การปฏิบัติ การสักการบูชา และการประกอบพิธีกรรมไม่ว่าจะโดยลำพังหรือในชุมชนร่วมกับผู้อื่นและในที่สาธารณะหรือส่วนบุคคล

19.เสรีภาพในการแสดงออก

ทุกคนมีสิทธิในอิสรภาพแห่งความเห็นและการแสดงออกรวมทั้งอิสรภาพ ในอันที่จะถือเอาความเห็นโดยปราศจากการแทรกแซง แสวงหารับและส่งข้อมูลข่าวสารตลอดจนข้อคิดผ่านสื่อใดโดยไม่คำนึงถึงพรมแดน

20.เสรีภาพในการชุมนุมอย่างสันติ

20.1 ทุกคนมีสิทธิในอิสรภาพแห่งการชุมนุม ร่วมประชุมและการตั้งสมาคมโดยสันติ

20.2 บุคคลใดไม่อาจถูกบังคับให้สังกัดสมาคมหนึ่งได้

21.การมีส่วนร่วมในการปกครองประเทศ

21.1 ทุกคนมีสิทธิที่จะมีส่วนร่วมในการปกครองประเทศตนโดยตรงหรือผ่านทางผู้แทนซึ่งได้เลือกตั้งโดยอิสระ

21.2 ทุกคนมีสิทธิที่จะเข้าถึงบริการสาธารณะในประเทศตนโดยเสมอภาค

21.3 เจตจำนงของประชาชนจะต้องเป็นพื้นฐานแห่งอำนาจการปกครองทั้งนี้เจตจำนงนี้จะต้องแสดงออกทางการเลือกตั้งตามกำหนดเวลาและอย่างแท้จริงซึ่งต้องเป็นการออกเสียงอย่างทั่วถึงและเสมอภาคและต้องเป็นการลงคะแนน  ลับหรือวิธีการลงคะแนนโดยอิสระในทำนองเดียวกัน

22.การได้รับการดูแลและคุ้มครองจากรัฐ

ทุกคนในฐานะที่เป็นสมาชิกของสังคมมีสิทธิในหลักประกันทางสังคมสิทธิในการบรรลุถึงซึ่งสิทธิทางเศรษฐกิจสังคมและวัฒนธรรมอันจำเป็นยิ่งสำหรับศักดิ์ศรีของตนและการพัฒนาบุคลิกภาพของตนอย่างอิสระผ่านความพยายามแห่งชาติและความร่วมมือระหว่างประเทศและตามการจัดการและทรัพยากรของแต่ละรัฐ

23.สิทธิในการทำงาน

23.1ทุกคนมีสิทธิในการงานในการเลือกงานโดยอิสระในเงื่อนไขที่ยุติธรรมและเอื้ออำนวยต่อการทำงานและในการคุ้มครองต่อการว่างงาน

23.2 ทุกคนมีสิทธิที่จะได้รับเงินค่าจ้างที่เท่าเทียมกันสำหรับงานที่เท่าเทียมกัน โดยปราศจากการเลือกปฏิบัติใด

23.3 ทุกคนที่ทำงานมีสิทธิที่จะได้รับค่าตอบแทนที่ยุติธรรมและเอื้ออำนวยต่อการประกันความเป็นอยู่อันควรค่าแก่ศักดิ์ศรีของมนุษย์สำหรับตนเองและครอบครัวและหากจำเป็นก็จะได้รับการคุ้มครองทางสังคมในรูปแบบอื่นเพิ่มเติมด้วย

23.4 ทุกคนมีสิทธิที่จะจัดตั้งและเข้าร่วมสหภาพแรงงานเพื่อความคุ้มครองแห่งผลประโยชน์ของตน

24.สิทธิในการพักผ่อน

ทุกคนมีสิทธิในการพักผ่อนและการผ่อนคลายยามว่าง รวมทั้งจำกัดเวลาทำงานตามสมควรและวันหยุดเป็นครั้งคราวโดยได้รับค่าจ้าง

25.คุณภาพชีวิตที่ดี

24.1 ทุกคนมีสิทธิในมาตรฐานการครองชีพอันเพียงพอสำหรับสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของตนและครอบครัวรวมทั้งอาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัยการดูแลรักษาทางแพทย์และบริการทางสังคมที่จำเป็นและมีสิทธิในหลักประกันยามว่างงาน เจ็บป่วย พิการ หม้าย วัยชรา หรือปราศจากการดำรงชีพอื่นในสภาวะแวดล้อมนอกเหนือการควบคุมของตน

24.2 มารดาและเด็กย่อมมีสิทธิที่จะรับการดูแลรักษาและการช่วยเหลือเป็นพิเศษเด็กทั้งปวงไม่ว่าจะเกิดในหรือนอกสมรสจะต้องได้รับการคุ้มครองทางสังคมเช่นเดียวกัน

26.สิทธิในการศึกษา

26.1 ทุกคนมีสิทธิในการศึกษา การศึกษาจะต้องให้เปล่าอย่างน้อยในชั้นประถมศึกษาและขั้นพื้นฐานการประถมศึกษาจะต้องเป็นการบังคับ การศึกษาทางเทคนิคและวิชาอาชีพจะต้องเป็นการทั่วไป และการศึกษาระดับที่สูงขึ้นไปจะต้องเข้าถึงได้อย่างเสมอภาคสำหรับทุกคนบนพื้นฐานของคุณสมบัติความเหมาะสม

26.2 การศึกษาจะต้องมุ่งไปสู่การพัฒนาบุคลิกภาพของมนุษย์อย่างเต็มที่ และการเสริมสร้างความเคารพต่อสิทธิมนุษยชนและอิสรภาพขั้นพื้นฐานการศึกษาจะต้องส่งเสริมความเข้าใจขันติธรรมและมิตรภาพระหว่างประชาชาติ กลุ่มเชื้อชาติหรือศาสนาทั้งมวลและจะต้องส่งเสริมกิจกรรมของสหประชาชาติเพื่อการธำรงไว้ซึ่งสันติภาพ

26.3 ผู้ปกครองย่อมมีสิทธิเบื้องแรกที่จะเลือกประเภทการศึกษาให้แก่บุตรของตน

27.การมีส่วนร่วมทางวัฒนธรรม

27.1 ทุกคนมีสิทธิที่จะเข้าร่วมโดยอิสระในชีวิตทางวัฒนธรรมของชุมชนที่จะเพลิดเพลินกับศิลปะและมีส่วนในความรุดหน้าและคุณประโยชน์ทางวิทยาศาสตร์

27.2 ทุกคนมีสิทธิที่จะได้รับการคุ้มครองผลประโยชน์ทางศีลธรรมและทางวัตถุ อันเป็นผลจากประดิษฐกรรมใดทางวิทยาศาสตร์วรรณกรรมและศิลปกรรมซึ่งตนเป็นผู้สร้าง

28.สันติภาพระหว่างประเทศ

ทุกคนย่อมมีสิทธิในระเบียบทางสังคมและระหว่างประเทศซึ่งจะเป็นกรอบให้บรรลุสิทธิและอิสรภาพที่กำหนดไว้ในปฏิญญานี้อย่างเต็มที่

29.เคารพสิทธิผู้อื่น

29.1.ทุกคนมีหน้าที่ต่อชุมชน ซึ่งการพัฒนาบุคลิกภาพของตนโดยอิสระและเต็มที่ จะกระทำได้ก็แต่ในชุมชนเท่านั้น

29.2 ในการใช้สิทธิและอิสรภาพแห่งตนทุกคนต้องอยู่ภายใต้ข้อจำกัดเพียงเท่าที่มีกำหนดไว้ตามกฎหมายเท่านั้นเพื่อวัตถุประสงค์ของการได้มาซึ่งการยอมรับและการเคารพสิทธิและอิสรภาพอันควรของผู้อื่นและเพื่อให้สอดรับกับความ ต้องการอันสมควรทางด้านศีลธรรมความสงบเรียบร้อยของประชาชนและสวัสดิการทั่วไปในสังคมประชาธิปไตย

29.3 สิทธิและอิสรภาพเหล่านี้ไม่อาจใช้ขัดต่อวัตถุประสงค์และหลักการของสหประชาชาติไม่ว่ากรณีใดๆ

30.ไม่มีใครเอาสิทธิเหล่านี้ไปจากเราได้

ไม่มีบทใดในปฏิญญานี้ที่อาจตีความได้ว่าเป็นการให้สิทธิใดแก่รัฐ กลุ่มคนหรือบุคคลใดในการดำเนินกิจกรรมใดหรือการกระทำใดอันมุ่งต่อการทำลายสิทธิและอิสรภาพใดที่กำหนดไว้ ณ ที่นี้

แต่ในทางปฏิบัติไม่ได้เป็นเช่นนี้ในสหประชาชาติยังมี 5 ชาติมหาอำนาจ จีน ฝรั่งเศส รัสเซีย สหราชอาณาจักร และสหรัฐ ที่สามารถ Veto มติของ UN ได้ หลายครั้งที่เกิดสงครามระหว่างประเทศ UN ก็ทำอะไรไม่ได้ โดยเฉพาะสงครามที่เกิดจากชาติมหาอำนาจด้วยแล้วก็ยิ่งทำอะไรไม่ได้เลย นี่เป็นเพียง 1 เรื่องใหญ่ในหลายเรื่องใหญ่ๆ ที่เกิดขึ้นกับมนุษย์บนโลก เช่น ความเหลื่อมล้ำ อาหาร ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค เครื่องนุ่งห่ม การศึกษา การเอาเปรียบทางการค้า เศรษฐกิจ ค่าเงิน ทรัพยากรธรรมชาติ เทคโนโลยี และอื่นๆ อีกมากมาย   

เมื่อมนุษย์ปกครองกันเองไม่ได้และมีปัญหาการเอาเปรียบด้วยความเป็นประเทศที่ ใหญ่กว่า รวยกว่า เจริญกว่า มีเทคโนโลยีดีกว่า มีอำนาจและอาวุธทางทหารมากกว่า

ประเทศขนาดกลางและเล็กทั่วโลกความยุติธรรมจึงไม่อาจเกิดขึ้นได้ สงครามระหว่างประเทศก็ไม่สามารถยุติลงได้รวม ถึงความรุนแรงระหว่างบุคคลของมนุษย์ด้วยกันเองก็ยังเกิดขึ้นอยู่ทุกวัน เราต้องหาวิธียุติความรุ่นแรง ความอดอยากหิวโหย การขาดแคลนยารักษาโรคและสุขอนามัยขั้นพื้นฐาน ความด้อยโอกาสทางการศึกษาและการเข้าถึงองค์ความรู้ต่างๆ ซึ่งไม่มีวิธีอื่นใดที่จะใช้ได้ดีเท่ากับการใช้เทคโนโลยีด้านซอฟแวร์และดิจิตอล (software and digital technology) เช่น อินเตอร์เน็ต, ปัญญาประดิษฐ์,  IOT, เทคโนโลยีสารสนเทศ เข้ามาจัดการกับปัญหามนุษย์ให้มากขึ้น โดย

1.Internet ต้องกระจายการเข้าถึงทุกคนให้ได้ทั่วโลก

เพื่อกระจายองค์ความรู้ ข่าวสาร ข้อมูลต่างๆ ให้คนได้ทั้งโลกเทคโนโลยีเครือข่ายอินเตอร์เน็ตไร้สาย อาทิ 3G,4G, 5G, 6G รวมทั้งอุปกรณ์เชื่อมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ แท็ปเล็ต มือถือ ซึ่งเป็นเครื่องมือและช่องทางในการติดต่อสื่อสารกำลังพัฒนาเพิ่มขึ้นทั้งในด้านปริมาณ คุณภาพ และความเร็วปัจจุบันมีผู้ที่เข้าถึงอินเตอร์เน็ตได้คิดเป็น 43% ของประชากรโลกทั้งหมดในขณะที่อุปกรณ์ประเภทสมาร์ทโฟนมียอดจำหน่ายทั่วโลกมากกว่า 1.2 พันล้านเครื่องต่อปี เทคโนโลยีและอุปกรณ์รองรับที่พัฒนาก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว ทำให้คาดว่าอินเตอร์เน็ตจะกลายเป็นหนึ่งในสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานเช่นเดียวกับไฟฟ้า น้ำประปาและถนน ที่ผู้คนส่วนใหญ่สามารถเข้าถึงได้ ซึ่งอาจจะครอบคลุมได้กว้างและเร็วกว่าสาธารณูปโภคอย่างไฟฟ้า น้ำประปาและถนนด้วยเนื่องจากโครงข่ายอินเตอร์เน็ตติดตั้งง่ายและมีค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่ามาก 

2.Robots

ปัจจุบันหุ่นยนต์เริ่มเข้ามามีบทบาทเทำหน้าที่ช่วยเหลือรวมถึงทดแทนมนุษย์ในหลายกิจกรรมทั้งในภาคการผลิต การเกษตร และการให้บริการสาขาต่างๆ  จากข้อมูลสถิติขณะนี้มีจำนวนหุ่นยนต์ในโลกทั้งหมดใประมาณ 1.1 พันล้านตัวเฉพาะในโรงงานอุตสาหกรรมที่ผลิตรถยนต์นั้นใช้หุ่นยนต์มากกว่า 80% ของกระบวนการผลิตทั้งหมดแล้วโดยเทคโนโลยีหุ่นยนต์กำลังถูกพัฒนาเพื่อตอบสนองการทำงานด้านต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพและบรรลุเป้าหมายในการช่วยเหลือมนุษย์เพิ่มขึ้นในทุกมิติ

3.Sensors

เทคโนโลยี IoT ได้ในวงการด้านต่างๆ ที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในขณะนี้ได้ถูกพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์คอมพิวเตอร์สวมใส่หรือติดตั้งบนร่างกาย (Wearables) เมืองอัจฉริยะ (Smart City), บ้านอัจฉริยะ (Smart Home), IoT สำหรับอุตสาหกรรมและโรงงานผลิต (Industrial internet), โครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ (Smart grid),  รถยนต์อัจฉริยะ (Connected car), เครือข่ายเชื่อมโยงระบบสุขภาพครบวงจร (Connected health), ฟาร์มอัจฉริยะ (Smart farming), เทคโนโลยีในธุรกิจห้างร้าน (Smart retail) รวมถึงภายในระบบห่วงโซ่อุปทานระหว่างผู้ผลิตและผู้ขาย (Smart Supply Chain) สืบเนื่องจากเครือข่ายให้บริการอินเตอร์เน็ตรวมถึงอุปกรณ์เชื่อมต่อและฮาร์ดแวร์ต่างๆ ที่มีราคาถูกลงอย่างมาก ทำให้อุปกรณ์และผลิตภัณฑ์ต่างๆ ถูกเชื่อมต่อเข้าสู่โลกอินเตอร์เน็ตได้ง่ายมากขึ้น ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นคือมนุษย์สามารถสั่งการควบคุมการใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ ผ่านทางเครือข่ายอินเตอร์เน็ต เช่น การเปิด-ปิด อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า รถยนต์ โทรศัพท์มือถือ เครื่องมือสื่อสาร เครื่องมือทางการเกษตร อาคาร บ้านเรือน เครื่องใช้ในชีวิตประจำวันต่างๆ ผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต  โดยทุกอย่างกำลังเกิดขึ้นและเปลี่ยนแปลงไปโดยที่เราแทบไม่รู้ตัว 

4.Medical

เทคโนโลยีการพิมพ์แบบสามมิติ (3D printing) ถือเป็นนวัตกรรมเปลี่ยนโลกที่ได้รับการกล่าวถึงอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และกำลังขยายการใช้งานสู่ผู้ใช้ทั่วไปในราคาที่ต่ำลงเรื่อยๆ  จนมีผู้นำไปพัฒนาต่อยอดและประยุกต์ใช้ในแวดวงต่างๆ อย่างกว้างขวางตั้งแต่ของเล่น ตุ๊กตาคนจริงย่อส่วน เครื่องประดับ รองเท้า เฟอร์นิเจอร์ ไปจนถึงชิ้นส่วนรถยนต์ ในอนาคตเมื่อเทคโนโลยีถูกพัฒนาถึงขีดสูงสุด ไม่เพียงระบบพิมพ์ 3 มิติจะถูกใช้เพื่อผลิตสิ่งของต่างๆ เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการใช้นวัตกรรมนี้ในการผลิต “เนื้อเยื่อที่มีชีวิตและอวัยมนุษย์” ด้วยเทคโนโลยีเครื่องพิมพ์ชีวภาพสามมิติ (3D Bioprinting) ซึ่งเป็นการนำวัสดุหรือเซลล์ที่มีชีวิตมาเรียงซ้อนกันเพื่อสร้างชิ้นส่วนตามต้องการนับเป็นก้าวสำคัญทางการแพทย์ในด้านการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ รวมถึงการสร้างอวัยวะใหม่เพื่อใช้ในการปลูกถ่ายในอนาคต

5.Phone

แนวโน้มของเทคโนโลยีผลิตอุปกรณ์สื่อสารที่มีประสิทธิภาพสูงและขนาดเล็กมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้คาดการณ์ว่ามนุษย์จะสามารถผลิตมือถือชนิดที่สามารถฝังไปบนร่างกายเพื่อติดต่อสื่อสารระหว่างกันได้  แทนที่จะติดต่อสื่อสารกันด้วยคำพูด ในอนาคตเราอาจจะสามารถสื่อสารทางความคิดผ่านคลื่นสมอง (brain waves) เหมือนอย่างในหนังไฮไฟได้  นอกจากนี้ การฝั่งหรือปลูกถ่ายอุปกรณ์สื่อสารลงบนร่างกายของมนุษย์ยังก่อให้เกิดประโยชน์ด้านอื่นๆ ซึ่งรวมไปถึงการตรวจติดตามพฤติกรรม ตำแหน่งที่อยู่ และกิจกรรมด้านต่างๆ รวมทั้งการตรวจติดตามและวินิจฉัยสุขภาพและโรคต่างๆ ผ่านเซนเซอร์ที่ฝังอยู่ในร่างกาย จนไปถึงอุปกรณ์ที่สามารถปลดปล่อยตัวยาภายในร่ายกายได้โดยอัติโนมัติเมื่อวินิจฉัยพบว่ามีอาการของโรคชนิดนั้นเกิดขึ้น เป็นต้น

6.Food Future

กลุ่มนักวิทยาศาสตร์ EAT-Lancet ที่เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ การเพาะปลูก และการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศโลก คาดว่าทางออกสำหรับความต้องการที่ไม่สิ้นสุดนี้คือ ในอนาคตมนุษย์เราจะต้องกินผัก ผลไม้ และพืชตระกูลถั่วเพิ่มเป็นสองเท่า และลดการบริโภคเนื้อแดงและน้ำตาลที่ไม่จำเป็นต่อร่างกายลงราว 50 เปอร์เซ็นต์ นอกจากจะเป็นการเพิ่มตัวเลือกอาหารใหม่ๆ แล้ว วิธีนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยแก้ไขปัญหาการขาดแคลนอาหารในอนาคตอีกด้วย อาหารที่จะมีทดแทนคือ

6.1 Plant-based meat เนื้อที่ทำจากพืช

6.2 Cultured meat เนื้อสัตว์ที่เพาะในห้องแลป

6.3 3D printing food อาหารสามมิติ สัมผัสเหมือนจริง 

6.4 แมลง แหล่งโปรตีนชั้นดี

6.5 สาหร่าย เพาะง่าย โตง่าย สารอาหารเพียบ

7.Artificial Intelligent-AI

AI กำลังถูกพัฒนาและมีบทบาทเพิ่มขึ้นอย่างมากในปัจจุบัน ด้วยความสามารถและศักยภาพอันเหลือเชื่อของ AI ในการเรียนรู้และประมวลผลจากสถานการณ์หรือประสบการณ์ในอดีต รวมทั้งการคำนวณ วิเคราะห์ และตัดสินใจเรื่องยากๆ บนฐานข้อมูลจำนวนมากได้ ทำให้ AI ไม่เพียงเข้ามามีบทบาทในงานที่ต้องใช้แรงงานในโรงงาน (blue-collar jobs) เท่านั้น แต่ยังมีโอกาสเข้ามาทดแทนตำแหน่งงานบริหารที่สำคัญ (white-collar jobs) ที่ต้องการการตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพและแม่นยำด้วย เช่น ผู้จัดการด้านการเงิน บุคลากรทางการแพทย์ ผู้บริหารระดับสูง หรือแม้กระทั่ง CEO ในขณะที่ AI กำลังถูกพัฒนาขีดความสามารถเพิ่มขึ้นเพื่อช่วยเหลือหรือทดแทนการทำหน้าที่ของมนุษย์  AI ที่มีความสามรถในการเรียนรู้สิ่งใหม่คิดพิจารณาและคาดการณ์อนาคต ตลอดจนสร้างทางเลือกในการตัดสินใจได้ด้วย

Conclusion

เมื่อ AI ที่คิดเองได้ ทำเองเป็น โดยไม่ต้องรอคำสั่งหรือคำแนะนำจากคนนี่จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ต้องให้ AI มาแก้ปัญหาและตัดสินปัญหาให้กับมนุษย์เพราะมนุษย์ยังมีอคติ การทุจริต คอร์รัปชั่น การเกลียดชัง พรรคพวก ชาตินิยม กิเลสตัณหาอยู่ในจิตใจ

การแก้ปัญหาสำคัญของมนุษย์ทั้งโลกไม่สำเร็จนั้นส่วนหนึ่งเกิดจากปัญหา

1.การแบ่งเชื้อชาติ

2.การแบ่งสัญชาติ

เราต้องแก้ใหม่ให้มนุษย์มีเชื้อชาติเดียวกันคือ“มนุษยชาติ” และมีสัญชาติเดียว คือ “Netizen” สัญชาติเน็ตติเซน เนื่องจากมนุษย์ใช้ Internet ติดต่อสื่อสารกันได้ทั้งโลกแล้วจึงไม่ไควรมีเชื้อชาติและสัญชาติแต่อย่างใดเชื่อว่าเหตุรุนแรงก็จะน้อยลง

**ข้อมูลบางส่วนจาก Internet

Related Post

ประชาชนต้องไม่แบ่งข้างหรือแยกขั้วทางการเมือง
23Jul

ประชาชนต้องไม่แบ่งข้างหรือแยกขั้วทางการเมือง

ประชาชนต้องรวมกันเป็นหนึ่งเดียวและทำความเข้าใจการเมืองไทยอย่างถ่องแท้รู้ว่าประเทศปกครองในระบอบอะไร ระบบบริหารราชการแผ่นดินเป็นอย่างไร กระทรวงต่างๆ มีหน้าที่อะไรบ้าง

ทำไมจึงต้องมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
08Jul

ทำไมจึงต้องมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

เมื่อมีการอยู่ร่วมกันของมนุษย์จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีการปกครองเมื่อการปกครองก็ต้องมีการจัดระบอบการปกครองขึ้นมาเพื่อใช้ในการปกครองมนุษย์ด้วยกันซึ่งปัจจุบันมี 2 แบบหลัก (ไม่ข้อกล่าวถึงแบบแยกย่อยต่างๆ)

Cardiovascular Disease (CVD)
08Jul

Cardiovascular Disease (CVD)

การทานอาหารทั้ง 6 ชนิดนี้ให้เพียงพอช่วยลดปัจจัยเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดในผู้ใหญ่ได้ Cardiovascular Disease (CVD)

เกาเหลาเนื้ออร่อยไร้เทียมทาน
21Jan

เกาเหลาเนื้ออร่อยไร้เทียมทาน

กินก่อนตายไม่เสียดายชาติเกิดเกาเนื้อที่ทำด้วยจอมยุทธเซี้ยเดี่ยวมือหนึ่งเกาเหลาเนื้อจ้าวยุทธจักรที่ยากจะหาผู้ต่อกรได้

รัสเซียยูเครน
13Oct

รัสเซียยูเครน

สงครามคือหนึ่งในเรื่องที่โหดร้ายของมนุษย์ในการเข่นฆ่ากันเองและถือเป็นเรื่องล้าหลังและไร้อารยธรรมของความเป็นมนุษย์อย่างสิ้นเชิง

เศรษฐกิจดีหรือไม่ดีดูจากอะไร
21Sep

เศรษฐกิจดีหรือไม่ดีดูจากอะไร

ทำไมบางช่วงหาเงินยากบางช่วงก็หาเงินง่ายอะไรคือตัวแปรหลักและเราจะต้องทำไงในแต่ละช่วงเวลาที่บอกว่าเศรษฐกิจดีหรือไม่ดี

© 2022 hitexts. All rights reserved